การติดตั้งโปรแกรม Eclipse บน CentOS

1. อันดับแรกทำการ Download โปรแกรม Eclipse สำหรับเวอร์ชั่น Linux มาก่อน โดยไฟล์ที่ดาวโหลดเสร็จแล้วจะอยู่ในโฟลเดอร์ /Downloads/

2. เข้าสู้หน้าต่าง Terminal ผ่านทาง Application > System Tools > Terminal

3. พิมพ์คำสั่ง su < ยูเซอร์เนม > เพื่อเข้าสู่การทำงานในระดับ root

4. จากนั้นใส่ Password ของ root

5. พิมพ์คำสั่ง cd ~/Downloads เพื่อเข้าสู่ Directory ของ Downloads

6. ใช้คำสั่ง ls เพื่อดูไฟล์ทั้งหมดใน Downloads

7. จากนั้นใช้คำสั่ง tar -xvzf eclipse-jee-kepler-R-linux-gtk-x86_64.tar.gz เพื่อแตกไฟล์

สามารถดูสรุปคำสั่งต่างๆ ในรูปภาพด้านล่างจากยูเซอร์เนมชื่อ nuttwud

8. จากนั้นระบบจะทำการแตกไฟล์ .tar ออกมา และสามารถเข้าโปรแกรม eclipse ได้จากโฟลเดอร์ xxx'Home/Downloads/eclipse

 ทดสอบโปรแกรม Eclipse ด้วยการแสดงผลคำว่า Hello World

การเพิ่มภาษาไทยและคีย์ลัดการเปลี่ยนภาษาใน CentOS

1. ไปที่ System > Preferences > Keyboard

 2. กดปุ่ม Add

 3. เลือกภาษาจากประเทศ หรือจากภาษา เลือกเป็น Thailand และกด Add

 4. ไปที่ Layout Options เพื่อตั้งค่าปุ่มเปลี่ยนภาษา

 5. เลือกหัวข้อ key(s) to change layout

 6. จากนั้นเลือกปุ่มคีย์ลัดที่ต้องการ ในที่นี้เลือกเป็น Alt + Shift และกด Close

 7. จากนั้นก็สามารถพิมพ์ภาษาไทยได้โดยเปลี่ยนภาษาจากคีย์ลัดที่เลือกไว้ได้แล้ว

การ Update Software บน CentOS

1. อยู่ในหน้า Desktop เลือกเมนู System > Administration > Software Update

 

 2. หลังจากนั้นจะปรากฏรายการที่มีการอัพเดทขึ้นมา ให้กดปุ่ม Install Updates

 3. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าจอให้ใส่รหัสของ root เมื่อกรอกรหัสเสร็จให้กดปุ่ม Authenticate จากนั้นจะเป็นการดามโหลดและติดตั้ง

เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้นทั้งหมดให้ทำการ Reboot ระบบใหม่อีกรอบ เป็นอันเสร็จสิ้นการอัพเดท CentOS

วิธีติดตั้ง CentOS

* ตัวอย่างการติดตั้ง CentOS นี้ได้จำลองจากโปรแกรม VMWare Workstation 9 โดยใช้พื้นที่ขนาด 30 GB ในการจำลองการติดตั้ง

1. หลังจากทำการ Boot เสร็จ จะปรากฏหน้าจอการติดตั้ง CentOS ให้เลือกที่เมนู Install or upgrade an existing system

 2. ต่อมาจะปรากฏหน้าจอสำหรับการตรวจสอบไฟล์ที่ใช้ติดตั้ง ให้เราเลือก Skip

 2. หลังจากนั้นกดปุ่ม Next

 2. ส่วนนี้จะปรากฏหน้าจอสำหรับเลือกภาษาในการติดตั้ง CentOS เมือเลือกภาษาเสร็จให้กดปุ่ม Next

 3. หลังจากนั้นจะเป็นการเลือกภาษาของปุ่มบน Keyboard เลือกภาษา แล้วกดปุ่ม Next

 4. ต่อมาให้เลือก Basic Storage Devices แล้วกดปุ่ม Next

 5. ต่อมาจะปรากฏข้อความเตือนเกี่ยวกับ Storage Device ให้กดปุ่ม Yes, Discard any data.

 6. ต่อไปจะเป็นการตั้งชื่อของ host โดยมีค่าเริ่มต้นเป็น localhost.localdomain อยู่แล้วให้กดปุ่ม Next

 7. ต่อมาเป็นการเลือกโซนเวลา เมื่อเลือกเสร็จแล้วให้กดปุ่ม Next

 8. ต่อมาเป็นหน้าจอสำหรับใส่รหัสของ root ( รหัสต้องมีความยาว 6 ตัวอักษรขึ้นไป ) เมื่อใส่รหัสเสร็จแล้วกดปุ่ม Next

 9. หากตั้งรหัสง่ายเกินไป จะมีข้อความเตือนขึ้นมา เราสามารถกดปุ่ม Cancel เพื่อกลับไปแก้ไขรหัสผ่านหรือกดปุ่ม Use Anyway เพื่อใช้รหัสผ่านที่เลือกไว้ตั้งแต่แรกก็ได้

 10. ต่อมาจะเป็นการเลือกชนิดของการติดตั้ง ให้เลือกเป็น Create custom Layout แล้วกดปุ่ม Next

 11. ต่อมาจะเป็นการสร้าง Partition สำหรับการติดตั้ง ให้กดปุ่ม Create

 12. ในการ Create Partition ให้เลือกชนิดเป็น Standard Partition แล้วกดปุ่ม Create

 13. จะปรากฏหน้าจอสำหรับ Add Partition ขึ้นมา

 14. สำหรับ Partition แรกที่เราจะสร้างนั้นคือ /boot คือ Partition ที่ใช้สำหรับการ Boot CentOS โดยใช้เนื้อที่ 250 MB เป็น Fixed size และเลือกที่ Force to be a primary partition แล้วกด Ok

 15. สำหรับ Partition ที่สองที่เราจะสร้างนั้นคือ / คือ Partition Root ใช้สำหรับเก็บไฟล์ System โดยใช้เนื้อที่ 10 GB หรือ 10240 MB เป็น Fixed size และเลือกที่ Force to be a primary partition แล้วกด Ok

 16. สำหรับ Partition ที่สามที่เราจะสร้างนั้นคือ swap ใช้สำหรับเป็นหน่วยความจำสำรองเวลาที่ RAM ในเครื่องนั้นไม่พอ*มีขนาดเป็น 2 เท่าของ RAM แต่ไม่เกิน 2 GB มีหลักการคำนวณอยู่ว่า ถ้า RAM ไม่เกิน 2 GB ให้คูณ 2 ถ้า RAM มากกว่า 2 GB ให้บวก 2 เช่น มี RAM 2 GB ก็ให้สร้าง swap 4 GB มี RAM 3 GB ให้สร้าง swap 5 GB เป็น Fixed size และเลือกที่ Force to be a primary partition แล้วกด Ok

 17. สำหรับ Partition ที่สี่ที่เราจะสร้างนั้นคือ /home มีหน้าเป็นเก็บไฟล์ทั่วๆไป เช่น วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น มีขนาดตามความเหมาะสมและต้องการของผู้ใช้ ในที่นี้เลือกใช้ขนาด 10 GB หรือ 10240 MB เป็น Fixed size และกดปุ่ม Ok

 18. สำหรับ Partition ที่ห้าที่เราจะสร้างนั้นคือ /tmp ใช้สำหรับเป็นพื้นที่เก็บไฟล์ชั่วคราว มีขนาด 256 MB เป็น Fixed size และกดปุ่ม Ok

19. สำหรับ Partition ที่หกที่เราจะสร้างนั้นคือ /var มีหน้าที่เก็บข้อมูลต่างๆเช่น log, database, web, mail ให้ขนาดเป็นพื้นที่ ๆ เหลือจากการสร้าง Partition โดยเลือก Fill to maximum allowable size แล้วกดปุ่ม Ok

 20. จากนั้นจะมีข้อความเตือนให้ Format กดปุ่ม Format

 21. เมื่อกดปุ่ม Next จะมีข้อความเตือนขึ้นมา ให้เลือก Write changes to disk

 22. เมื่อปรากฏหน้านี้ขึ้นมาให้กดปุ่ม Next

23. หน้าจอนี้จะเป็นการเลือกชนิดของ CentOS ที่ใช้ในการติดตั้ง ในที่นี้เลือกเป็น Desktop และด้านล่างจะเป็นการติดตั้งซอฟแวร์พื้นฐานของ CentOS ให้เลือก Customize now และกดปุ่ม Next

 24. ต่อมาจะเป็นหน้าจอเลือกซอฟแวร์ที่จะติดตั้งไปพร้อมกับ CentOS เลือกเลือกเสร็จแล้วให้กดปุ่ม Next

 25. จากนั้น CentOS ก็จะทำการติดตั้ง

 26. เมื่อรอจนเสร็จจะปรากฏหน้าจอนี้ขึ้นมาให้กดปุ่ม Reboot เพื่อ Restart ระบบใหม่

 27. เมื่อเริ่มระบบใหม่เรียบร้อยแล้วจะประกฏหน้าจอต้อนรับ ให้กดปุ่ม Forward

 28. ต่อมาจะเป็นหน้าจอเกี่ยวกับการแสดงลิขสิทธิ์ ให้เลือกด Yes,I agree... แล้วกดปุ่ม Forward

 30. ต่อมาจะเป็นการ Create User ให้กรอก Username, Full Name และ Password เมื่อกรอกเสร็จให้กดปุ่ม Forward

 31. จะปรากฏหน้าจอตั้งค่าวันที่และเวลา ให้กด Forward

 32. เมื่อถึงหน้านี้ให้กด Finish แล้วกด Yes

 33. เมื่อ Reboot เสร็จจะปรากฏหน้าแรกของการเข้า CentOS มา ให้เลือก User ที่เราสร้าง แล้วกรอกรหัสผ่าน และกด Log in

 34. ต่อมาจะปรากฏหน้าตา Desktop ของ CentOS และต่อจากนี้ก็สามารถใช้ CentOS ได้แล้ว